วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2559

เค้กโยเกิร์ตนมสด สูตร สุขภาพดีอย่างมีสุข By Lanna ’s Patisserie Sansai Chiangmai





        เมื่อสาวๆอย่างเราอยากลุกขึ้นมาดูแลตัวเอง ใส่ใจในสุขภาพทั้งภายนอก และ ภายใน การออกกำลังกาย และการเลือกทานอาหาร จึงจัดเป็นกุญแจสำคัญ อันดับต้นๆเลยก็ว่าได้ แต่สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือ การลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ คล้ายๆกับการมีวินัยในตนเองนั่นและค่ะ ถ้าเราทำสม่ำเสมอควบคู่กันไปเชื่อได้เลยว่า หุ่นสวย สุขภาพดี หนีไม่พ้นแน่นอนจ้ะ

  ในการออกกำลังกายของสาวๆอย่างเรา อาจสร้างแรงบันดาลใจมาจาก เพื่อนๆหุ่นฟิตเฟิร์ม ตามยิม ลานแอโรบิค หรือ คอร์สโยคะ แม้แต่ ตาม instagram ของเหล่าบรรดา เซเลป ดารา ที่เราตาม follow ก็ถือเป็นแรงผลักดันชั้นดีให้เราอดทน ฝึกฝน ลงมือ ออกกำลังกาย เพื่อเป้าหมายในการมีหุ่นสวย สุขภาพแข็งแรงแบบนั้นบ้าง

อีกด้านหนึ่งที่มาควบคู่กัน และถือเป็นเรื่องสร้างความหนักอกหนักใจให้กับเราเรื่อยมาก็คือเรื่องการควบคุมอาหารนั่นเอง คือไม่ใช่ว่าเราจะไม่รู้นะคะว่า อาหารอะไรที่ควรทาน และอะไรควรหลีกเลี่ยง แต่ก็นะ สำหรับสาวๆที่ชอบทานขนมแบบเราละก็มันยากทีเดียวละ ที่จะเบรกได้ทัน ยิ่งได้เห็นความน่ารักน่าทานจากบรรดาเพื่อนๆที่อัพรูป บวกสถานที่มาให้เสร็จสรรพเข้าไปด้วยแล้ว อดใจไม่ไหวกันเลยทีเดียว

ทีนี้ บางทีพอรู้ตัวก็ลองหันหัวไปสู่ขนมคลีน อาหารสุขภาพ ฉบับเต็ม แต่จัดไปได้ไม่นานก็พบว่ามันหนักเกินไปสำหรับเรา บางทีเราก็ไม่จำเป็นต้องฝืนกันขนาดนั้น เพราะก็ต้องยอมรับว่าด้วยข้อจำกัดต่างๆ ทำให้ รสชาติ และ เนื้อสัมผัส มันไม่ค่อยคุ้นเคยกับเราสักเท่าไร

ดังนั้นเอายังไงดี ถ้ารสชาติที่เราซื้อมาทานยังไม่โดนใจ ด้วยความที่เราเองก็ชอบทำขนมอยู่ด้วยแล้ว จะไม่ลองปรับเปลี่ยนหาหนทางให้กับตัวเองทีเดียวเชียวหรือ เราก็เลยขอลองเลือกเส้นทางสายกลาง แบบพอดีๆ ใส่ชื่อให้ดูเท่ๆว่า “แนวไฮบริด” ละกัน 

        เอาละ!! ก็มาเริ่มเปิดตำรา หาความรู้กันดู ว่าจะใช้อะไร ทดแทน สิ่งไหนกันได้บ้าง อันไหนพอปรับลดได้ก็ปรับ แต่ยังคงแกนหลักของขนมที่รู้จักและคุ้นเคยให้มากที่สุด 

        แต่การปรับทดลองแต่ละครั้งไม่ง่ายเลยค่ะ กว่าจะได้สัดส่วนที่ลงตัว เพราะเราต้องยอมรับว่ารสชาติที่เราๆท่านๆคุ้นเคยกันอยู่นั้น มันต้องถูกบิดพลิ้วไปบ้าง เพื่อให้เกิดความสมดุล และสามารถสร้างเอกลักษณ์ให้กับรสชาติใหม่ๆ ที่เราอาจไม่เคยสัมผัสมาก่อน

         ขนมแนว ไฮบริด ของ Lanna’s Patisserie เลยขอลองคบหากับ เค้กโยเกิร์ต โดยใช้วัตถุดิบที่เป็น Non Fat หรือ Low Fat บ้าง ปรับความหวานโดยอาศัยน้ำผึ้งเข้าช่วยเพื่อลดปริมาณเนย และ น้ำตาลลง ในส่วนผสมของฐานเนื้อเค้ก ใช้ Digestive Biscuit สูตร Light ที่ 0% Cholesterol บิสกิตชื่อดังของฝั่งอังกฤษ ตามมาด้วย โยเกิร์ต และนมสด รสธรรมชาติ แบบ Non Fat 0% ผงเจลาตินช่วยในการเซ็ตตัว ตบท้ายด้วยของโปรด สตอเบอรี่ลูกโตๆ ให้มันชุ่มฉ่ำใจซะหน่อย



            พอได้วัตถุดิบดีมีคุณภาพพร้อมแล้ว ก็ถึงเวลาลงมือเยียวยารักษา ความสุขซะที เริ่มจาก
1.) อุ่นนมสดNon Fat ให้ร้อนพอสมควรแล้วใส่น้ำตาลนิดหน่อย บวกกับ เจลาตินลงไป คนให้ละลายเข้ากัน

2.) จากนั้นผสมโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ปราศจากมันเนย กับน้ำเลมอนเข้าด้วยกันในชามผสม แล้วตีไปเรื่อยๆจนขึ้นฟอง จากนั้นหันกลับมาตีครีมสดต่อ จนขึ้นฟองเช่นเดียวกัน ใช้เวลาประมาณราว 8 นาที

3.) นำส่วนผสมในข้อ1 ค่อยเทๆ ลงมาผสมกับชามโยเกิร์ต แล้วตามด้วยครีมสด จากนั้นคนให้เข้ากัน แล้วพักไว้

4.) นำ Digestive Biscuit มาบดให้เป็นผง แล้วเอามาผสมกับน้ำผึ้งเพื่อทดแทนเนยบางส่วน คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วอัด Digestive Biscuit ลงไปให้แน่นที่ชั้นล่างสุดของพิมพ์ เพื่อทำเป็นฐานของเค้กโยเกิร์ต

5.) จากนั้นค่อยๆตักโยเกิร์ตที่พักไว้ เทลงไปในพิมพ์จนพอดีขนาดของพิมพ์ที่เตรียมไว้ เสร็จแล้วนำมาแช่ในตู้เย็นทิ้งไว้ราว 2 - 3 ชั่วโมงจนเนื้อเค้กโยเกิร์ตมีลักษณะออกหยุ่นๆแข็งๆ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
หลังจากนั้นก็นำออกมาแต่งหน้าทาปากกัน ด้วยสตอเบอรี่ลูกโตๆ หรือจะเป็นบลูเบอรี่ฟิลลิ่ง ก็ได้อีกรสชาติที่ไม่น่าพลาดเลยทีเดียว


       คราวนี้ละค่ะสาวๆคนไหนอยากได้หุ่นดี แบบไม่ถึงกับต้องเครียดกับอาหารคลีน  หันมาลองเลือก ทางสายกลาง สไตล์ Lanna’s Patisserie กันดูมั้ยคะ ลองชิมแล้วบอกได้เลยว่า ประโยชน์และคุณค่าที่ได้รับแน่นอนว่าต้องดีงามกว่าแบบปกติในรสชาติที่ใกล้เคียงของเดิมค่า... 

Lanna ’s Patisserie  Sansai Chiangmai

วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2559

Tiramisu ทีรามิสุ ของหวานที่มีตำนานอันหลากหลาย

ความเป็นมา ของ ทีรามิสุ


Tiramisu ของหวานสัญชาติ อิตาเลียน




  ทีรามิสุ(Tiramisu) 

ฟังดูเหมือนสำเนียงญี่ปุ่น ทว่าเป็นของหวานเลื่องชื่อจากอิตาลีต่างหาก 
ร้านอาหารอิตาเลียนไม่ว่าจะไปสร้างชื่อเสียง หรือเปิดบริการ 
ณ มุมใดของโลก จะต้องมีของหวานที่ว่านี้เป็นการตบท้ายของมื้ออยู่เสมอ  
.
.
เรียกได้ว่าถ้าขาดไปเมื่อใดถือว่า มื้อพิเศษนั้นยังไม่สิ้นสุด 
หรือไม่ก็ขาดอรรถรสในการร่ำรสอาหารอิตาเลียนขนานแท้กันไปเลย 
และหากได้ลิ้มลองเมื่อใดรสชาติจะติดลิ้น และติดใจไม่รู้ลืมกันเลยทีเดียว

 ทีรามิสุ(Tiramisu) เป็นภาษาอิตาเลียน ที่มีความหมายว่า “Pick me up”

เพราะทีรามิสุเป็นเค้กที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังงาน 
จากส่วนผสมที่มีทั้งไข่ไก่ น้ำตาล และยังมีกาเฟอีนในปริมาณที่สูง 
จึงทำให้ผู้ที่ได้ชิมรสรู้สึกกระปี้ กระเปร่า หรืออาจจะมีอีกความหมายหนึ่งว่า เลือกฉันซิ” 
แล้วคุณจะรู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นประมาณนั้น

Tiramisu By Lanna 's Patisserie


ทีรามิสุ เรียกอีกอย่างว่า “Tuscan Trifle”เรื่องของต้นกำเนิดก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งอันที่จริงเรื่องต้นกำเนิดของขนมหวานเลื่องรสนี้มีมาอย่างไรนั้นยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่เพียงแต่เห็นปรากฏในตำราทำอาหารของกรีก

          บ้างก็ว่าเป็นขนมที่เพิ่งเกิดขึ้นมาเมื่อ 10 กว่าปีนี้เอง โดยเกิดจากที่ ปาตีซีแยร์” หรือคนทำขนมที่ชาวฝรั่งเศสเขาเรียกกันเห็นว่ามีคุกกี้ที่เหลือในตู้เย็นจนแข็งไม่น่ากินแต่ในใจก็นึกเสียดาย ว่าแล้วก็เกิดปิ๊งไอเดียด้วยการนำคุกกี้ที่ว่ามาแช่คาลัวส์วางสลับกับครีมชีส จนได้เค้กที่แสนอร่อยในที่สุด บางตำราก็ว่าทีรามิสุเกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นช่วงที่ประชากรประเทศอิตาลีประสบปัญหายากจน แล้วพวกเขาต้องออกสู้ในสนามรบ ภรรยาเลยนำเอาขนมปังกรอบมาผสมกับกาแฟให้สามีพกติดตัวไปรับประทาน เพราะเชื่อว่าด้วยส่วนผสมของขนมชนิดนี้จะช่วยเพิ่มพละกำลังให้กับพวกเขาได้รับชัยชนะ และจะได้กลับมาบ้านอย่างปลอดภัย หรืออีกนัยหนึ่งก็เพื่อที่ว่าเวลาสามีได้ลิ้มรสขนมชนิดนี้ยามใด จะเหมือนต้องมนต์จนอดคิดถึงภรรยาสุดที่รักไม่ไหว จึงมีกำลังใจทำศึกเพื่อที่จะได้กลับบ้านไปหาเธอโดยเร็ว

Tiramisu By Lanna 's Patisserie
Tiramisu By Lanna Patisserie เค้กเชียงใหม่

บ้างก็ว่าที่มาของ ทีรามิสุ ฉบับที่ใกล้เคียงมากที่สุดคือ เกิดในสมัย  เรอเนซองส์ ที่เซียนาเมืองทัสคานี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลี โดยได้มีผู้ปรุง ซุปปา เดล ดุคาขึ้นถวายมหาดยุคกอสสิโม เด เมดิซี ที่ 3และท่านดยุคได้นำกลับมาที่เมืองฟลอเรนซ์ด้วย ซึ่งเชื่อว่านั่นก็คือ"ทีรามิสุ"นั่นเอง
              
ครั้นพอถึงศตวรรษที่ 19ซุปปา เดล ดุคา กลายเป็นของหวานที่นิยมมากในหมู่ปัญญาชนและศิลปินชาวอังกฤษ ซึ่งพักอาศัยที่ฟลอเรนซ์ในขณะนั้น กลุ่มคนดังกล่าวเรียกซุปปา เดล ดุคา อีกอย่างว่า  ซุปปา อินกลีส” (Zuppa Inglese) เมื่อพวกเขากลับอังกฤษก็ได้นำซุปปา อินกลีสกลับไปด้วย ต่อมาซุปปา อินกลีสก็เป็นของหวานที่ชาวผู้ดีเขาชื่นชอบไปทั้งเกาะกันเลยทีเดียว
 .
 . 
             ความนิยมชมชอบซุปปา อินกลีส ยังแผ่ไปถึงเมืองเทรวิโซ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวนิสในจังหวัดแถบตะวันตกเฉียงเหนือของเวเน โต เทรวิโซ ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องคลองสวย ภาพเขียนสีน้ำเป็นเลิศ และที่แน่ๆ คือ กลายเป็นดินแดนที่ขึ้นชื่อในเรื่องของทีรามิสุอีกด้วย  ยังมีเรื่องเล่าสนุกๆ ที่ทำให้ทีรามิสุมีสีสันและน่าสนใจมากขึ้น หนึ่งในนั้นเล่าว่าในอดีตทีรามิสุเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาสตรีในราชสำนักของเวนิสมากที่สุด ทั้งนี้ก็เพราะว่า Tiramisu แปลตามตัวได้ว่า Pick me up ที่แปลว่าคุ้นเคย สนิทสนม ซึ่งพวกเธอใช้เป็นรหัสลับยามเมื่อแอบพบกับชายชู้นั่นเอง
.
.
แม้แต่ในอเมริกาเอง ทีรามิสุเข้าไปครองใจผู้คนไม่ใช่น้อย ซึ่งเริ่มแพร่หลายในเมืองซานฟรานซิสโก และปัจจุบันนี้ทีรามิสุได้กลายเป็นเป็นส่วนหนึ่งในเมนูของร้านอาหารหลายร้านทั่วประเทศไปแล้ว  เรียกได้ว่าถึงเวลานี้ทีรามิสุกลายเป็นของหวานที่ไม่ได้นิยมแค่ชาวอิตาเลียน แต่คนทั่วโลกที่มีโอกาสได้ลิ้มรสขนมชนิดนี้พากันติดอกติดใจในรสชาติถึงขั้นที่ยากจะลืมเลือน ทั้งนี้คงเป็นเพราะรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากส่วนผสมที่แตกต่าง
.
.
อาทิ ไข่ไก่ ชีสมาสคาโปเน (Mascapone) ของอิตาลีที่ให้รสชาติออกมันๆ อมเปรี้ยวนิดๆ ที่ปลายลิ้น กับวิปปิงครีมนุ่มๆ ตัดกับรสเข้มของขนมปังเค้กสปองจ์ หรือคุกกี้แบบนิ่มที่เรียกว่า เลดี้ฟิเกอร์(Lady finger)สลับเป็นชั้นที่ชุ่มฉ่ำด้วยกาแฟเอสเปรสโซ ที่ให้ความขมกำลังดี แถมยังเพิ่มดีกรีความอร่อยด้วยการผสมเหล้ามัลซาราลงไป จึงกลายเป็นของหวานมีระดับที่มีความอร่อยแสนจะลงตัว 
Tiramisu by Lanna 's Patisserie เชียงใหม่
.
.
          พอหลังๆ คนนิยมมากขึ้น ทีรามิสุ ก็ยิ่งมีการพัฒนาทั้งรสชาติและหน้าตาที่แตกต่างกันออกไปอีกมากมาย อาทิ ใครชอบกาแฟก็ใส่กาแฟหนักนิดหนึ่ง ส่วนคนไม่กินกาแฟเขาก็หันไปทำเวอร์ชันอื่นๆ กันแทน เช่น อาจจะใช้ โกโก้ หรือว่าช็อกโกแลตแทนในช่วงที่ชาเขียวมาแรงก็เลยมีโอกาสได้ลิ้มลองทีรามิสุรสชาเขียว ที่อร่อยไปอีกแบบ 
.
.
ทีรามิสุยังมีอีกหลายสูตร บางสูตรก็ใส่ชีสบางสูตรก็ไม่ใส่ บางสูตรใส่ไข่  
บางสูตรก็เพิ่มด้วยการใส่เหล้า เลือกความร้อนแรงได้ตามความต้องการกันเลย นอกจากนั้น ทีรามิสุยังสามารถเสิร์ฟได้ในลักษณะที่เป็นแก้วหรือถ้วย และในแบบที่เป็น มูสเค้ก ก็แล้วแต่ความชอบ ว่ากันว่าถ้าอยากกินทีรามิสุให้อร่อย ควรจะรับประทานในขณะที่เย็นจัด และอาจจะเพิ่มรสชาติด้วยการเสิร์ฟกับขนมปัง หรือผลไม้สด โดยเฉพาะสตรอเบอร์รีนั้นเข้าขากันนักแล
.
.
ดังนั้นส่วนใหญ่Tiramisu จึงถูกนิยมนำมาจัดเลี้ยงแขกเหรื่อเป็นการตบท้ายของมื้อพิเศษด้วยกันทั้งนั้น ของหวานสัญชาติอิตาลีที่มีนามว่า ทีรามิสุ นี้จึงคงมั่นติดตรึงใจ ไม่ว่าผู้ใดได้ลิ้มลองเป็นต้องเรียกหาทุกครั้งที่มีโอกาสทุกครั้งไป...

                    https://www.pinterest.com/lannapatisserie 


ขอขอบคุณข้อมูล บทความจาก สมาคมการบริหารโรงแรมไทย